วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

พระพุทธมหามุนี (หลวงพ่อโต) พระดีศรีสะเกษ ศาลสร้างแจกฟรี เกจิคณาจารย์ดังปลุกเสกขลัง

ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่



พระพุทธมหามุนี (หลวงพ่อโต) พระดีศรีสะเกษ ศาลสร้างแจกฟรี เกจิคณาจารย์ดังปลุกเสกขลัง


หลวงพ่อโต หรือ พระพุทธมหามุนี เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองศรีสะเกษมายาวนาน ประดิษฐานอยู่ในวัดมหาพุทธาราม ตามตำนานเล่าว่า หลวงพ่อโต ถูกค้นพบในสมัยสร้างเมืองใหม่ที่ “ดงไฮสามขา” ในสภาพเป็นตุ๊กตาหินขนาดเท่าแขน และขยายใหญ่ขึ้นเองอย่างน่าอัศจรรย์

ดังมีบันทึกอ้างอิงว่า “ที่ตั้งวัดพระโต มีป่าเครือมะยางร่มครึ้มหนาแน่น ในขณะที่ถางป่านั้นได้พบตุ๊กตาหินรูปหนึ่ง มีลักษณะคล้ายพระพุทธรูป” เล่ากันว่า ตุ๊กตาหินนี้มีอภินิหารวิเศษ เมื่อมองดูจะเห็นเป็นเพียงรูปเล็ก ๆ ขนาดเท่าแขนคนธรรมดา แต่เข้าไปโอบกอดกลับโอบไม่รอบ พวกราษฎรพากันฉงนยิ่งนัก จึงไปบอกอาจารย์ศรีธรรมาผู้เป็นใหญ่ ครั้นประจักษ์เห็นจริงก็ทำพิธีสมโภชกันขนานใหญ่ และขนานนามตุ๊กตาหินว่า “พระโต” ซึ่งต่อมาได้นำอิฐหรือปูนมาสร้างเสริมให้ใหญ่ขึ้นหลายเท่าตัว ดังที่เห็นกันในปัจจุบัน
แม้ว่าไม่มีใครยืนยันความเป็นมา แต่ตำนานทั้งหมดทั้งปวงก็สอดคล้องกับประวัติศาสตร์เมืองศรีสะเกษอย่างเหลือเชื่อ จนเป็นที่ยอมรับกันกว้างขวางว่า หลวงพ่อโตองค์จริงนั้น น่าจะถูกหุ้มอยู่ข้างใน เดิมทีเป็นพระพุทธรูปหินดำเกลี้ยง (บางแห่งว่าเป็นหินเขียว บางแห่งว่าเป็นหินแดง) ปางมารวิชัย (ปางสะดุ้งมาร) เดิมมีหน้าตักกว้างยาว ๒.๕๐ เมตร ต่อมาผู้ศรัทธากลัวว่ามิจฉาชีพจะทำให้เสียหาย จึงมีผู้ศรัทธาหุ้มเสริมองค์จริงหลายครั้ง จนมีขนาดใหญ่โตทุกวันนี้ คือมีขนาดหน้าตักกว้าง ๓.๕๐ เมตร ความสูงตั้งแต่พระเกศาลงมา ๖.๘๕ เมตร เมื่อพุทธศักราช ๒๕๐๙ ได้มีการสร้างวิหารใหญ่ครอบไว้ มีขนาดกว้าง ๑๔.๐๐ เมตร ยาว ๔๐ เมตร

จากข้อมูลสรุปได้ว่า มีการค้นพบหลวงพ่อโตในยุค พระยาวิเศษภักดี (ชม) ย้ายมาตั้งเมืองใหม่ในสถานที่เป็นเมืองศรีสะเกษในปัจจุบัน และสร้างวัดพระโตเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองจากนั้นมาใน พ.ศ. ๒๓๒๘ จนถึงวันนี้ หลวงพ่อโต หรือพระโต มีอายุ ๒๒๖ ปีล่วงมาแล้ว (ข้อมูลจากวัฒนธรรมพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดศรีสะเกษ)

ด้วยความที่หลวงพ่อโตเป็นที่เคารพนับถือของชาวศรีสะเกษมาช้านาน ศาลจังหวัดศรีสะเกษแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ซึ่งเปิดทำการเมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๔๕ ตาม
พระราชกฤษฎีกากำหนดการเปิดทำการแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ได้เห็นคุณค่าและความเข้มขลังของพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์นี้ นายสุพจน์ เกิดสันเทียะ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลฯ ในขณะนั้น จึงมีแนวคิดจัดสร้างหอประดิษฐานพระพุทธรูปประจำศาลฯ ซึ่งจำลององค์หลวงพ่อโต บริเวณหน้าอาคารที่ทำการศาลฯ ในเบื้องต้นได้ดำเนินการขออนุญาตก่อสร้างหอพระ สร้างพระหลวงพ่อโตจำลองและขออนุญาตใช้ตราสัญลักษณ์สำนักงานศาลยุติธรรมประดิษฐานที่ชายผ้าทิพย์ขององค์พระ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้นับถือและสักการะสืบไป
ต่อมา นายเกียรติยศ ไชยศิริธัญญา ได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลฯจังหวัดศรีสะเกษ แผนกเยาวชนและครอบครัว ก็สืบสานปณิธานของ นายสุพจน์ เพื่อให้สำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์

ครั้นได้รับอนุญาตก่อสร้างอย่างเป็นทางการแล้ว ได้มีการตั้งคณะทำงานกำหนดพิธีอัญเชิญหลวงพ่อโตจำลองมาประดิษฐานระหว่างวันที่ ๕-๖ มกราคม ๒๕๕๔ โดยพิธีแบ่งออกเป็นวันที่ ๕ มกราคม เป็นขั้นตอนของพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดมหาพุทธาราม และวันที่ ๖ มกราคม ได้ประกอบพิธีบวงสรวงอัญเชิญหลวงพ่อโตจำลองประดิษฐาน ณ หอพระประจำศาลฯ โดยมี นายเกียรติยศ ไชยศิริธัญญา เป็นประธานในพิธี ซึ่งมีการฉลองสมโภชอย่างยิ่งใหญ่ รวมทั้งมีพิธีเบิกเนตรตามตำราโบราณครบสูตร ได้รับเมตตาจากพระเดชพระคุณ พระครูโกวิท พัฒโนดม (หลวงปู่เกลี้ยง เตชธัมโม) วัดโนนแกต (ศรีธาตุ) เกจิอาจารย์ชื่อดังภาคอีสานได้เมตตาเดินทางมาเป็นเจ้าพิธีด้วย

ในคราวนั้น นอกเหนือการจัดสร้างหลวงพ่อโตจำลองขนาดหน้าตักกว้าง ๒๙ นิ้ว ๑ องค์ เพื่อประดิษฐานในหอพระแล้ว ยังมีการจัดสร้างพระบูชาหน้าตักกว้าง ๑๒ นิ้ว ๙ องค์ พระบูชาหน้าตักกว้าง ๙ นิ้ว ๙๙ องค์ พระบูชาหน้าตักกว้าง ๗ นิ้ว ๑๐๘ องค์ รวมทั้งสิ้น ๒๑๗ องค์ และเหรียญห้อยคอ เนื้อทองคำจำนวน ๓๙ เหรียญ เนื้อเงินจำนวน ๓๙๙ เหรียญ และเนื้อทองแดง ๘,๔๐๐ เหรียญ รวม ๘,๘๓๘ เหรียญ แจกฟรีให้ผู้ศรัทธาและผู้มาติดต่อราชการ (เหรียญทองแดง ได้มอบเป็นที่ระลึกแก่ผู้พิพากษาทั่วประเทศไปแล้ว ๔,๒๗๐ เหรียญ)

วัตถุมงคลรุ่นนี้ ได้รับประทานและได้รับมอบแผ่นโลหะชนวนทองคำ เงิน ทองแดง จากพระเถระชั้นผู้ใหญ่และพระเกจิคณาจารย์ชื่อดังหลายรูป ได้แก่ สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคตฺโต) เจ้าคณะใหญ่ธรรมยุตินิกาย พระราชธรรมสารสุธี รองเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ วัดมหาพุทธาราม พระญาณวิเศษ หรือ หลวงปู่ห้วย (จรัส เขมจารี) วัดหลวงสุมังคลาราม ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พระญาณทีปาจารย์ (หลวงปู่ท่อน ญาณธโร) วัดศรีอภัยวัน จ.เลย (ขณะนั้น) พระครูโกวิท พัฒโนดม (หลวงปู่เกลี้ยง เตชธัมโม) วัดโนนแกต (ศรีธาตุ) ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เกจิชื่อดังภาคอีสานและต้นตำรับพระเวทย์สุดเข้มขลังแห่งยุค นำมาผสมเป็นมวลสารในการจัดสร้างหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียว และในเศียรหลวงพ่อโตขนาดบูชาทุกองค์ ยังได้มีการบรรจุเม็ดพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ไว้ด้วย

ในวันพุทธาภิเษก มีคณะสงฆ์และเกจิอาจารย์ร่วมอธิษฐานจิตเพื่อเป็นสิริมงคลหลายรูป อาทิ พระราชธรรมสารสุธี รองเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ วัดมหาพุทธาราม พระครูพิศิษฎ์ธรรมนุศาสน์ วัดปรือคัน พระญาณวิเศษ หรือหลวงปู่ห้วย (จรัส เขมจารี) วัดหลวงสุมังคลาราม พระครูโสภณ จันทรังสี (หลวงปู่เพ็ง) วัดบ้านละทาย พระครูศรีรัตนาภิรักษ์ วัดเกียรติแก้วสามัคคี เป็นต้น

ภายหลังการจัดสร้างเสร็จสิ้นตามวัตถุประสงค์ เพื่อป้องกันการสร้างซ้ำซ้อนหรือปลอมแปลง คณะทำงานได้ทำลายแม่พิมพ์และบล็อกต่าง ๆ รวมทั้งหมุด ตราสัญลักษณ์ต่าง ๆ ทันที ทำให้ผู้ศรัทธาในวัตถุมงคลรุ่นนี้มั่นใจได้ว่า ไม่มี “ทำเกิน” หรือ “ทำซ้ำ”

ปัจจุบันวัตถุมงคลรุ่นนี้ยังมีเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง สำหรับแจกให้ผู้สนใจหรือผู้มาติดต่อราชการฟรี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศาลจังหวัดศรีสะเกษ แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว โทรศัพท์ ๐-๔๕๖๑-๔๓๐๙ ได้ทุกวัน.

อาราธานัง : รายงาน


ที่มา เดลินิวส์


ติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ที่


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...